rbs.rsu.ac.th

คณะบริหารธุรกิจมหาวิทยาลัยรังสิตLogo

การบริหารร้านค้าออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำได้อย่างไรบ้าง

1.วางแผนธุรกิจให้เฉียบคม

หากคุณคิดอยากเริ่มต้นทำธุรกิจออนไลน์ ไม่ว่าความคิดนั้นจะมีจุดเริ่มต้นมาจากการมีสินค้าใหม่ๆ อยู่ในมือ หรือการมองเห็นโอกาสในตลาดของคุณเองก็ตาม สิ่งสำคัญที่ผู้เริ่มต้นธุรกิจควรทำคือการวางแผน ซึ่งการวางแผนนั้นควรกำหนดให้ครอบคลุมและลงรายละเอียดให้ชัดเจนในแต่ละด้านของการทำธุรกิจ ดังนี้
– ประเมินสินค้า หาจุดแข็ง ปิดจุดอ่อน: หากคุณมีสินค้าที่คิดว่าใหม่ในตลาด ยังไม่มีใครทำขาย และมั่นใจว่าสินค้านั้นมีประโยชน์และจะเป็นที่ต้องการของตลาด ให้ทำการสำรวจตลาดโดยอาจเริ่มจากสอบถามคนใกล้ตัวถึงแนวคิดของสินค้าว่ามีข้อควรปรับปรุงตรงไหน หากปล่อยสินค้าชิ้นนั้นไปวางขายในตลาด เขาจะสนใจซื้อสินค้าหรือไม่ และซื้อในราคาเท่าไหร่ เพื่อเป็นการประเมินในเบื้องต้นว่าสินค้าชิ้นนี้จะเป็นที่ต้องการและได้รับความนิยมหรือไม่ และเราควรตัดสินใจเริ่มขายสินค้านี้หรือไม่
– วิเคราะห์ตลาด ศึกษาคู่แข่ง: เป็นวิธีที่ช่วยประเมินโอกาสทางธุรกิจว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ หากศึกษาดูแล้วยังพอเห็นช่องว่างที่สินค้าของเราอาจไปอยู่ในจุดหนึ่งของตลาด โดยที่มีคนกลุ่มหนึ่งต้องการสินค้าตัวนี้ และคู่แข่งยังไม่มีใครขายสินค้า หรือผลิตสินค้าประเภทนี้ได้ดีเท่าเรา ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่เราจะเข้าไปในตลาด
– เสาะหาผู้ผลิต: การคัดเลือกผู้ผลิตก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ธุรกิจของเราอยู่รอด เราควรคัดเลือกผู้ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพในต้นทุนที่เหมาะสม เพื่อให้เราได้สินค้าที่คุณภาพดี และต้นทุนไม่สูงนักมาขาย แต่อย่างไรก็ตามก็ควรสำรองผู้ผลิตหลายๆ ราย เผื่อกรณีฉุกเฉินที่ผู้ผลิตรายหนึ่งไม่สามารถผลิตให้เราได้ เราก็ยังสามารถสับเปลี่ยนไปให้ผู้ผลิตอีกรายทำได้ เพื่อไม่ให้สินค้าขาดตลาด ซึ่งจะส่งผลต่อรายได้ของเราด้วย
– คำนวณต้นทุน วางแผนการเงิน: ธุรกิจออนไลน์จะประสบความสำเร็จหรือไม่ อยู่ที่การวางแผนและควบคุมการเงินด้วย เพราะต้นทุนนั้นไม่ได้มีเพียงแต่ต้นทุนของสินค้าเท่านั้น แต่ยังมีค่าขนส่ง ค่าหีบห่อ ค่าการตลาด และอื่นๆ หากเรามีการวางแผนการเงินที่ดี มีการคิดคำนวณต้นทุนของสินค้าและบริการ มีการวางแผนกิจกรรมทางการตลาด กำหนดงบประมาณการตลาดให้พอเหมาะเพื่อโปรโมทสินค้า รวมทั้งวางแผนการหมุนเวียนเงินในธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ มีรายได้เข้ามาเพียงพอต่อรายจ่ายต่างๆ ก็จะช่วยให้การดำเนินธุรกิจออนไลน์นั้นมีสภาพคล่อง และมีกำไรได้ในที่สุด

2.เลือกใช้ระบบร้านค้าออนไลน์ที่น่าเชื่อถือ

ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกิจออนไลน์ เครื่องมือที่จำเป็นในการขายสินค้า เพื่อประกอบการตัดสินใจเลือกใช้เว็บไซต์ให้เหมาะสมกับธุรกิจ โดยหากต้องการเปิดร้านค้าที่จัดการง่าย ต้นทุนต่ำ ก็ควรเลือกใช้ร้านค้าออนไลน์สำเร็จรูปจากผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือ มีระบบบริหารจัดการร้านค้าที่มีเครื่องมืออำนวยความสะดวกแก่ผู้ขายที่เหมาะสม มีระบบชำระเงินที่ปลอดภัย สะดวก มีการการันตีเพื่อเพิ่มความมั่นใจต่อทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย และที่สำคัญควรเป็นผู้ให้บริการที่มีการดูแลผู้ขายอย่างใกล้ชิด สามารถติดต่อได้ง่ายเพื่อสอบถามข้อสงสัยหรือแก้ไขปัญหาให้ร้านค้าได้โดยเร็ว รวมไปถึงมีที่ตั้งของเซิร์ฟเวอร์ในประเทศไทยเพื่อช่วยให้ระยะเวลาในการเชื่อมต่อเครือข่ายหรืออัพโหลดข้อมูลสามารถทำได้รวดเร็วขึ้น

3.สร้างร้านค้าให้มีเอกลักษณ์โดดเด่น

การทำให้ร้านค้ามีความโดดเด่นแตกต่างจากร้านค้าอื่นๆ สามารถทำได้ไม่ยาก เริ่มต้นง่ายๆ ดังนี้
– ตั้งชื่อร้านค้าให้จดจำง่าย
– ออกแบบโลโก้ของร้านค้าให้มีเอกลักษณ์แสดงตัวตนของร้านค้า
– จัดเตรียมข้อมูลสินค้าให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็น รูปภาพสินค้าในแต่ละมุมมอง รายละเอียดของสินค้าที่ครบถ้วน และราคาขายที่ถูกต้อง
– ศึกษาเรื่องการทำการตลาดออนไลน์ และทำความเข้าใจว่าแต่ละเครื่องมือการทำการตลาดชนิดไหนเหมาะกับธุรกิจของคุณ เช่น Facebook Ads, SEM, Google Ads และอื่นๆ

4.เตรียมความพร้อมด้านสินค้าและบริการ

– วางแผนการสั่งซื้อสินค้าในแต่ละช่วงตามการคาดการณ์จากข้อมูลที่ได้ทำการศึกษามา เพื่อให้สินค้าสามารถผลิตและส่งได้ทัน ไม่ขาดตลาด
– จัดทำสต๊อคสินค้าหรือคลังสินค้าเพื่อให้ง่ายต่อการบริหารจัดการรายการสั่งซื้อ และเป็นประโยชน์ต่อการประเมินการสั่งสินค้าจากผู้ผลิตในรอบต่อไป และช่วยในการบริหารต้นทุนที่ใช้หมุนเวียนในธุรกิจอีกด้วย
– จัดวางขั้นตอนและหน้าที่ผู้รับผิดชอบสำหรับการเตรียมสินค้า บรรจุหีบห่อ และจัดส่งสินค้า เพื่อรองรับรายการสั่งซื้อที่เข้ามาในแต่ละวัน
– เตรียมสินค้าให้พร้อมส่ง และทำการอัพเดทสินค้าในคลังให้เป็นปัจจุบันเสมอ เพื่อให้พร้อมสำหรับการขาย

5.จัดการรายการสั่งซื้ออย่างมืออาชีพ

– ตอบสนองต่อรายการสั่งซื้อที่ชำระเงินสำเร็จให้เร็วที่สุด และเตรียมสินค้าสำหรับการจัดส่งภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ที่หน้าเว็บไซต์

– จัดเตรียมสินค้าให้ตรงตามรายการสั่งซื้อ และทำการบรรจุหีบห่อ โดยมีการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการขนส่งตามประเภทของสินค้า เช่น ใช้พลาสติกกันกระแทกห่อหุ้มสินค้าที่แตกหักได้ง่าย เป็นต้น

6.ทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง

– จัดโปรโมชั่นแคมเปญอย่างต่อเนื่องเพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่และลูกค้าเดิมให้กลับมาซื้อซ้ำ และหากร้านค้ามี Social Media ก็ควรกระจายการโปรโมทแคมเปญต่างๆ ผ่านทุกช่องทางด้วย เพื่อให้ข่าวสารรวมถึงสินค้าที่ทางร้านโพสต์นั้นเข้าถึงลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าร้านค้านี้มีการอัพเดทอยู่เสมอ มีตัวตนจริง ขายจริงเพราะยังมีการขายสินค้าอย่างต่อเนื่อง